คำถามที่ลอร์นึกข้องใจแต่กลับทำหน้างงๆแล้วรอให้คำตอบมันออกมาจากปากของชิเอลเองโดยที่เขาไม่ต้องถาม
การประคองเอวให้ลอร์ลอยตัวบนน้ำสองขาโอบรัดรอบเอวสองมือตีน้ำลอยตัวเงยมองคนที่ประคองเอวลอร์เอาไว้
แล้วพอสะโพกลอยเหนือน้ำขึ้นมาเจ้าน้องชายน้อยๆของลอร์ก็อวดกายเชิดฉายประจักษ์แก่สายตาของชิเอล
“จะ เจ้าทำอะไรน่ะ...แบบนี้มัน...”
“หึๆ ท่านี้ไง น่าสนุกที่สุดเลย”
เพราะลอร์ช่วยพยุงตัวเองให้ลอยเหนือน้ำชิเอลเลยใช้มือแค่ข้างเดียวเพื่อประคองสะโพกของลอร์เอาไว้ได้สบาย
มืออีกข้างเกลี่ยเจ้าก้อนลูกบอลขาวซีดเอาไว้ในมือเดียว
“อึ่ก อืออ...”
ลอร์หอบหายใจถี่รัวเพราะความวูบวาบที่เกิดจากน้ำมือของชิเอล
เกล็ดน้ำที่เกาะตามตัวมาจากแรงกระเด็นของน้ำที่เกิดจากการดิ้นของลอร์
ก็แน่ล่ะความเสียวจากการถูกสัมผัสจากฝ่ามือนุ่มเย็น
น้ำเย็นฉ่ำใช้แทนสารหล่อลื่นได้อย่างดี
เสียงที่เกิดจากสัมผัสน่าอายมันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆกับจังหวะการขยับมือที่กอบกุมรอบแก่นกายของลอร์เอาไว้
ฟึ่บๆๆ
เสียงน้ำกระทบกับผิวเนื้อ
เสียงน้ำกระจายขึ้นเหนือพื้นน้ำแล้วจมดิ่งกลับลงไปบนแอ่งน้ำ
ใจกลางแอ่งน้ำที่มีร่างของชิเอลกับลอร์
“อื้มมม อ๊ะ..”
ลอร์เม้มปากเข้าหากันตอนที่ไม่สามารถกลั้นเสียงครางตัวเองเอาไว้ได้
ความอายมันพวยพุ่งขึ้นมาจนหน้าแดงแจ๋ต้องเงยหน้าให้หัวเย็น แต่ร่างกายของเขาตอนนี้กลับกำลังร้อนเป็นไฟแม้จะแชร์อุณหภูมิร่างกายกับเจ้าของชื่อชิเอลก็ตามที
“อึ่ก อืออ...ชิเอล...เฮือก”
ลอร์สะดุ้งแล้วสะดุ้งอีกกับการใช้เรียวปากครอบครองแก่นกายของลอร์เอาไว้ทั้งอัน
แน่นอนว่าคนที่กำลังเสียวซ่านแทบจะไม่มีสติประคองตัวเองให้ลอยน้ำได้เลย
ดีแค่ไหนแล้วที่น้ำมันไม่ได้ลึกมากถึงขั้นต้องใช้แรงมหาศาลในการทรงตัว
แค่ชิเอลยืนประคองสะโพกลอร์เอาไว้ให้ขยับเข้ามาหาปากของเขามันช่างง่ายแสนง่าย
ซ้ำยังตื่นเต้นมากๆซะอีกสำหรับพ่อแวมไพร์พันธุ์ผสมที่อาจจะติดใจการมีเพศสัมพันธ์ในป่าในดง
ชุ่บๆๆ
เสียงดูดดึงเจี๊ยวจ้าวไปทั่วแอ่งน้ำที่เป็นสถานที่เดทสุดโรแมนติก
แต่พอเปลี่ยนจากฉากหวานๆมาเป็นฉากเร่าร้อนแบบนี้ดูแล้วมันกลับอีโรติกได้ถึงใจพวกเขาเสียจริง
“อื้อออ เราไม่ไหวแล้ว
แฮ่กๆ...เราจะตายอยู่แล้ว...อึ่ก อืออ”
ลอร์ใช้มือที่ประคองตัวเองข้างหนึ่งไปดันไหล่ของชิเอลเอาไว้
เอาจริงๆเขาหายใจไม่ทันตามที่พูดนั้นแหละถึงเขาจะไม่จำเป็นต้องหายใจก็ตามที
แต่ยังไงมันก็ทรมานร้อนลุ่มไปทั้งตัวหากไม่ได้สูดหายใจหนักๆอย่างเมื่อครู่
ชุ่บๆ ฟึ่บ...
“อึ่ก อืออ”
เสียงครางของลอร์หายเข้าไปในลำคอตอนที่เจ้าตัวเงยมองแผ่นฟ้าที่เห็นแค่ภาพพร่ามัวจากแรงอารมณ์
เชื่อเถอะความต้องการของแวมไพร์มันไม่ได้จบลงแค่น้ำขาวขุ่นที่อยู่ในปากของชิเอลแน่นอน
ฉ่า
พอคิดได้ว่าตัวเองปลดปล่อยทั้งๆที่ชิเอลยังคงกอบกุมแก่นกายเขาเอาไว้ด้วยริมฝีปากลอร์ก็หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศสด
ชิเอลยอมปล่อยให้ลอร์ยืนด้วยตัวเองรวบเอวแนบร่างกายที่กำลังหอบถี่ๆให้ซบอกเขา
กอดอย่างเดียวก็พอจะดับร้อนได้อยู่หรอกแต่นี้เล่นกอดแล้วขยำเนื้อหนังเขาด้วยเนื้อสิเขาจะจัดการกับความต้องการที่กำลังก่อตัว
หมับ ฟึ่บๆ
แค่กอดแน่นๆยังไม่พอ
ชิเอลยังเลื่อนมือกอดหลังขยำเอวซุกหน้าเข้ากับซอกคอ แม้จะดูรุนแรงแต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป
สองมือที่กำก้อนเนื้อภูเขาไฟนุ่มๆไว้เต็มมือออกแรงขยำขยุมจนเจ้าของร่างสั่นกระเส่าไปหมด
“นายสั่นนะ หนาวเหรอ?”
ขวับๆ
รู้ทั้งรู้ว่าที่เขาสั่นเป็นเจ้าเข้าอย่างนี้มันเพราะอะไรแต่ชิเอลก็ยังเอ่ยปากถามแกล้ง
เมียเขาก็ช่างน่ารักเสียจริงเมื่อผัวถามมาเมียก็ส่ายหน้าตอบโดยไม่คิดจะเคืองใจกับการหยอกเย้าเล็กๆ
“ทำให้อุ่นกันดีไหม?”
สวบ
“อึ่ก อืออ”
สิ้นเสียงที่ดังกระซิบอยู่ข้างหูของลอร์ก่อนจะตามมาด้วยริมฝีปากอุ่นๆที่ประทับไปตามซอกคอ
ปลายนิ้วสอดเข้าไปภายในกายขยายช่องว่างเล็กๆกวาดควานภายในเกือบทุกซอกทุกมุมไร้ช่องว่างให้สำหรับนิ้วอื่นๆ
เขาอยากจะแอบฝังเขี้ยวลงบนเนื้อของลอร์อยู่เหมือนกัน แต่หากชิเอลเผลอทำตามใจตัวเองสักครั้ง
ลอร์คงจะไม่ให้อภัยเขาไปตลอดชีวิต
“อ๊ะ...อืมม
ชิเอล...เราจะ..จะไม่ไหวอยู่แล้ว”
ลอร์ไม่ได้ล้อเล่นหรอกที่บอกว่าจะไม่ไหว
ไม่ใช่แค่ทนไม่ไหวแต่เขาหมายถึงว่าเขายืนแทบจะไม่ไหวแล้ว
สมองมันขาวโพลนไปหมดแล้วด้วยซ้ำจนมองหน้าลอร์ยังจะไม่ชัดเลย
“ถ้ารีบร้อนเดี๋ยวจะเจ็บเอานะ”
ขวับๆ
“ไม่เป็นไร เราแข็งแรง”
คำพูดน่ารักที่ชิเอลอุ้มให้ลอร์ใช้สองขาโอบรัดรอบสะโพกเขาอีกครั้ง
ในเมื่อเมียบอกว่าพอผัวก็ไม่คิดจะขัดขยับสะโพกให้แก่นกายร้อนระอุจอปากทางเข้าในขณะที่ลอร์ยกสองมือขึ้นเกาะไหล่อย่างเขินๆ
สวบ
“ซี้ดด..อืมม”
ชิเอลกดสะโพกของลอร์ลงมาครอบแก่นกายตัวเอง
เสียงกระเส่าข้างหูทำให้เขาก้มจูบซอกคอ ความเจ็บมันแว๊บเข้ามาภายในช่องทางอ่อนนุ่ม
ช่องทางคับแคบที่ชิเอลสัมผัสได้ความเย็นของน้ำใสๆที่กำลังทะลักเข้าไปพร้อมๆกับแก่นกายใหญ่โต
แม้จะไม่มีที่ว่างพอให้อะไรแล้วแต่น้ำกลับเข้าไปพร้อมกับแก่นกายนั้นได้
“อึ่ก บอกแล้วเห็นไหม?”
เขาเตือนลอร์แล้วแท้ๆว่าถ้าหากว่ารีบแล้วมันจะทำให้เขาเจ็บตัวได้
แต่ในเมื่อไม่ยอมฟังกันชิเอลก็ได้แต่กดแช่แก่นกายเอาไว้แบบนั้นให้ลอร์ชิน
“อึ่ก ซี้ดดด อืออออ”
การขยับช้าๆกดเข้าไปลึกๆถึงจุดกระสันภายใน
จริงอยู่ที่มันเจ็บแต่มันช่าง...รู้สึกดีจนอยากจะให้เข้ามาลึกกว่านี้ ความคิดนั้นที่ชิเอลได้ยินก้องอยู่ในหัว
เมื่อมันคือความต้องการที่ตรงกับเขาทำไมชิเอลจะไม่สนองล่ะ
ฟึ่บ...ฟึ่บ
การค่อยๆขยับสะโพกลึกๆนั้นนอกจากจะทำให้ช่องทางเล็กๆนั้นขยายออกแล้ว
มันก็ยังทำให้ลอร์เสียวซ่านไปในตัวแล้วมันช่วยลอร์ได้
แต่กลับทำให้เขาทรมานมากกว่าเดิม เขาอยากจะกระแทกร่างลอร์แรงๆไปเลย
“อึ่ก...ชิเอล...ทำเลย ทำสิ”
ลอร์น่ะรู้ดีว่าชิเอลน่ะพยายามยั้งตัวเองไม่ให้ทำรุนแรงกับเขามากแค่ไหน
เขาเองก็...อยากจะให้ชิเอลทำรุนแรงกับเขาเหมือนกัน ยิ่งเร่งเขาก็ยิ่งอยากจะขยำร่างกายของลอร์ให้หายหมั่นเขี้ยวไปเลย
“งั้นจะไม่เกรงใจแล้วนะ...”
“อือ”
ลอร์ตอบรับสั้นๆขยับสะโพกขึ้นสวนทั้งๆที่ยืนอยู่
แม้จะไม่ได้ถนัดกับถวงท่าแต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเขาเลยสักนิด
ซ้ำยังทำให้เขามีไฟมากกว่าเดิมทุกครั้งที่ขยับมันจึงยิ่งกว่าหนักหน่วงกว่าเวลาปกติ
“อึ่ก...อือ..อาห์ อา”
เสียงครางที่กลั้นไม่ได้ของลอร์ดังอยู่ข้างหูชิเอล
มือที่เกาะอยู่ที่ไหล่เพื่อทรงตัวเลื่อนไปกำอยู่ตรงท้ายทอย
ร่างกายขยับตามแรงกระแทกของชิเอล
ความเจ็บเริ่มเลือนหายเหลือเพียงความต้องการที่เริ่มรวมกันเป็นความรู้สึกเสียวๆที่หน้าท้อง
เสียงประกอบจากการกระชอกของน้ำที่กระเด็นขึ้นจากผิวน้ำและจมดิ่งกลับสู่แอ่งน้ำเริ่มถี่รัว
ยิ่งอยู่ในน้ำครึ่งตัวแบบนี้เสียงเนื้อกระทบเนื้อมันก็ดังกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ถามว่าความอายของพวกเขาน่ะมีไหม? มีสิ
แต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครเห็นพวกเขาในสภาพนี้เลยนี่น่า
“อึ่ก...”
ชิเอลกัดปากตัวเองยามที่สัมผัสได้ถึงแรงข่วนจากเล็บคมของลอร์
เจ้าชายผมทองฝังจมูกกับไหล่ของชิเอลที่อุ้มตัวเองเอาไว้ดวงตาของลอร์วาววับแดงฉานสะท้อนกับแสงอาทิตย์ตอนที่เงยหน้าพ่นลมหายใจออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม
ตามใบหน้าเกาะไปด้วยหยดน้ำที่กระเด็นจากการขยับมือตีน้ำระบายความเสียวซ่านที่เขามี
“หึ”
ฟึ่บๆๆ
แล้วชิเอลก็เอาคืนโดยการขยับสะโพกให้เร็วขึ้นตามใจตัวเองนิดหน่อยโดยการขยำเข้าที่แก้มก้นพอดีมือ
แม้อากาศใต้น้ำมันจะเย็นแค่ไหน หากมองจากบุคคลที่สามในตอนนี้สองร่างที่กอดกันอยู่กลางแอ่งน้ำกลับมีควันลอยออกมาจากร่างกายเพราะความเร่าร้อน
แผ่นหลังที่เป็นรอยแดง
เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่รวมกับเสียงน้ำกระทบกันแล้วมันช่างลามกจนลอร์ไม่สามารถคุมตัวเองได้
ไอ้พละกำลังมหาศาลของเขามันแทบจะพวยพุ่งออกมา จากที่ใช้แค่ปลายนิ้วแบบแอบจิกปลายเล็บลงไปบนแผ่นหลังของชิเอลนิดหน่อยตอนนี้เป็นกอดทั้งแผ่นหลังของชิเอลเอาไว้เต็มแรง
“อึ่ก มัน...อืออ ซี้ดด
ชิเอล..เรา..ตื่นเต้น...อาห์...”
ลอร์ต้องเชิดหน้ากัดริมฝีปากตัวเองตอนที่เขี้ยวคมที่ปกติไม่ค่อยได้ใช้มันงอกยาวขึ้นมานิดหน่อย
ดวงตาสีเลือดกำลังวาววับกว่าปกติกับความตื่นเต้นที่มาพร้อมกับความรู้สึกวูบวาบจากในสายเลือด
ฟึ่บๆๆ
“งั้นเหรอ? ดีแล้ว...อึ่ก ซี้ดด
ฉันก็เหมือนกัน”
ไม่ใช่แค่ลอร์คนเดียวหรอกที่รู้สึกถึงความแตกต่างจากความตื่นเต้นครั้งนี้
ไม่รู้ว่าเพราะสภาพแวดล้อมในตอนนี้ หรือเพราะชิเอลแกล้งลอร์มากเกินไป
หรือเพราะว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ปลอดคน จะอะไรก็แล้วแต่ตอนนี้มันทำให้ลอร์ตอดรัดเขาแน่นกว่าทุกที
รับรู้ได้เลยว่ามันไม่ปกติแล้วก็ไม่ธรรมดา
“อืมมม ซี้ดดด ชิเอล...อึ่ก
จะไม่...ไม่ไหวแล้ว..”
ลอร์กลั้นหายใจไปพักหนึ่งซุกหน้าลงกับคอของชิเอลยามที่ร่างกายมันวูบวาบซ้ำยังรู้สึกแปลกๆที่พวยพุ่งมาจุกที่อกนี้อีก
ร่างกายของลอร์มันร้อนไปหมดและนั้นมันก็ส่งผลไปถึงชิเอลด้วยเหมือนกัน
“อึ่กก..ลอร์...รัดแน่นเกินไปแล้ว..อาห์...ฉันจะเสร็จเอานะ...”
หมับ
“อือ..ข้างใน อย่าเอาออกนะ”
เสียงสั่นกระเส่าที่มันดังอยู่ข้างหูพ่นประโยคน่ารักออกมาให้แวมไพร์ดวงตาสองสีกัดฟันกรอดเพิ่มความรุนแรงในการขยับสะโพกเข้าไปอีก
เขาเองก็แทบจะขาดสติเหมือนกันตอนที่ได้ยินเสียงหอบหายใจพร้อมกับคำขอร้องน่ารักๆในเวลาอีโรติกแบบนี้
ดวงตาของชิเอลวาววับไม่ใช่แค่ดวงตาสีเลือดเท่านั้นที่กำลังวาววับสะท้อนกับแสงแดดดูน่ากลัว...แต่ดวงตาสีดำสนิทที่ได้มาจากของเขามันก็วาววับและเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานในชั่วพริบตาในจังหวะที่กระแทกแก่นกายฉีดพ่นความต้องการของตัวเองเข้าไปในกายของเจ้าชายผมทอง
“อาห์”
พรึ่บ!
เสียงครางสั้นๆที่ลอร์เชิดหน้าตัวเองขึ้น
เส้นผมสีทองเปียกชุ่มไปด้วยน้ำจากการนอนหงายในตอนแรกสะบัดเอาน้ำที่เกาะปลายผมให้กระเด็นเป็นวงกว้าง
ลอร์ในตอนนี้ช่างงดงามจนกว่าจะหาคำมาบรรยาย
ยอดอกสีชมพูที่กำลังชูชันเชิดอกพร้อมกับแผ่นอกยามที่ร่างสูงเหยียดกายจัดการกับความเสียวซ่าน
“!!!”
อะไรก็ไม่ทำให้ชิเอลละสายตาจากลอร์ได้แล้วในตอนนี้
มันไม่ใช่เพียงแค่ความเร่าร้อนแปลกประหลาดที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใหม่แต่ก็ชอบใจไม่น้อย
แต่เป็นเพราะในจังหวะที่ลอร์ปลดปล่อยออกมานั้นมันเป็นจังหวะเดียวกับที่ปีกสีดำทมิฬผุดออกมาจากแผ่นหลังของลอร์
“ลอร์”
“แฮ่กๆ...”
ลอร์หุบอากาศเข้าเต็มปอดหลังจากผ่านศึกหนักหน่วงที่แม้จะไม่ได้รุนแรงกว่าปกติเลยแต่เขากลับรู้สึกแปลกๆ
รู้สึกได้เลยว่าจู่ๆปีกมันก็งอกออกมาเองโดยที่เขาไม่ต้องการและไม่เสียพลังกายกับมันเลยแม้แต่น้อย
“เราคิดว่า...แฮ่กๆ...มันเป็นแค่..ฮ้าห์..ตำนานซะอีก”
ดวงตาของลอร์ยังคงเป็นประกายจ้องมองชายตรงหน้าที่ไม่ได้ละสายตาไปจากปีกสีดำสนิทของเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียว
สายตาของชิเอลที่จ้องมองปีกของเขามันเหมือนถูกดูดลงไปใต้มหาสมุทร มันช่างงดงาม
ยิ่งประดับอยู่บนร่างกายขาวเนียนของลอร์ด้วยแล้วชิเอลก็ยิ่งไม่อาจละสายตาจากภาพตรงหน้า
“ตำนานของแวมไพร์”
ชิเอลพูดเสริมทั้งๆที่ดวงตายังคงจับต้องที่ปีกคู่สวย
ส่งมือไปลูบผ่านอย่างชื่นชม เพราะลูกผสมอย่างเขาไม่มีปีกและแวมไพร์ก็มีกฏเหล็กว่าห้ามใช้ปีกซะอีก
การจะได้เห็นปีกจริงๆของแวมไพร์พันธุ์บริสุทธิ์นี้ไม่ใช่ง่ายๆเลย
“อึ่ก...อืม...เราคิดว่าแวมไพร์จะไม่สามารถมีความสุขจนปีกมันออกมาเองแบบนี้ได้”
ลอร์หอบหายใจระรัวซบหน้าลงกับไหล่ของชิเอลตอนที่ชิเอลยอมให้ลอร์เหยียบพื้นด้วยขาตัวเอง
ตำนานของแวมไพร์ที่หากความสุขมันเอ่อล้นในใจจะกลายเป็นปีคู่งามที่สะกดทุกอย่างไว้ด้วยสีดำทมิฬคู่นั้น
ตำนานที่เคยเกิดขึ้นกับซีโน่และอเล็กซ์ ตอนนี้มันเกิดขึ้นกับพวกเขา
ฟึ่บ
ชิเอลกระพริบตาไล่หยดน้ำที่เกาะอยู่บนขนตาตอนที่ปีกคู่งามกลายเป็นละอองสีดำสลายหายกลายเป็นธาตุอากาศลอยปลิวไปกับสายลม
หมับ
ชิเอลโอบร่างของลอร์ที่ไร้เรี่ยวแรงเอาไว้ด้วยมือเดียวก่อนจะหัวเราะมุมปากเมื่อรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่ยังคงร้อนลุ่มไม่ต่างไปจากเดิม
“แฮ่กๆ...มีความสุขจัง”
อีก....เราอยากได้อีก
“หึๆ”
ชิเอลหลุดหัวเราะกับเจ้าชายผมทองที่กำลังร้องขอเขาด้วยสายตาอ้อนๆ
และเสียงก้องจากในหัวตอนที่ชิเอลสบตากับดวงตาแดงฉานนั้น
สิ่งมหัศจรรย์มันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ
หากแต่มันก็เป็นไปได้แม้ว่าจะมีโอกาสแค่หนึ่งเปอร์เซ้นต์
หรือมันจะเป็นเพียงคำบอกเล่าหรือตำนาน
หัวใจที่ถูกแช่แข็ง
อาจจะกลับมาเต็มได้อีกครั้งและพร้อมที่จะมี...รักก็เป็นได้
....................................................
อ่านต่อได้ที่นี้ครับผม